
ขณะที่คนสองคนกำลังคบหาสมาคมกันอยู่นั้น น้อยรายที่จะตัดสินใจอย่างเฉียบพลันเป็นแฟนกันทันที มักจะมีท่าทีดูกันไปดูกันมาสักระยะหนึ่งจึงจะตัดสินใจ บางคู่ก็ดูกันนานหน่อย บางคู่ก็ดูกันประเดี๋ยวประด๋าว เป็นเรื่องราวส่วนตัวของคู่นั้นๆ โดยเฉพาะ ไม่มีใครไปกำหนดกฎเกณฑ์ได้เป็นสูตรสำเร็จตายตัวลงไปว่า จะต้องใช้เวลากี่วัน กี่เดือน กี่ปี อย่าว่าแต่กำหนดตายตัว แค่ประมาณการยังทำไม่ได้เลย
มีหลายคู่ที่ดูกันไปดูกันมาเป็นเวลาหลายปี ก็ไม่มีท่าทีที่จะลงเอยเป็นแฟนกัน ขณะที่บางคู่ดูกันวันเดียวก็ตกลงปลงใจเป็นแฟนกันแล้วก็มี ของพรรค์นี้อยู่ที่จิตใจของแต่ละคนเท่านั้น เมื่อถึงวันที่จะตัดสินใจรับใครสักคนเป็นแฟนของเรานั้น ดูกันที่ตรงไหนเป็นปัจจัยหลัก มักเป็นคำถามที่ได้ยินบ่อยๆ โดยเฉพาะสุภาพสตรี มักจะดูแล้วดูอีก กว่าจะตัดสินใจเลือกใครเป็นแฟน
เมื่อพิจารณาให้ลึกซึ้งจะเห็นถึงความจริงว่า ที่ผู้หญิงใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินใจในระดับต้นๆ หนีไม่พ้น "ความเสมอต้นเสมอปลาย" ลองสังเกตดูดีๆ เวลามีโอกาสไปงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน งานไหนงานนั้น ถ้าพิธีกรถามเจ้าสาวว่าชอบเจ้าบ่าวตรงไหน คำตอบที่เราได้ยินบ่อยๆ คือ ชอบเจ้าบ่าวตรงที่มีความเสมอต้นเสมอปลาย ทำไมเกณฑ์การตัดสินใจเรื่องความเสมอต้นเสมอปลายจึงเป็นปัจจัยต้นๆ ของผู้หญิงเกือบทุกคนที่จะตัดสินใจรับใครเป็นแฟน "เพราะผู้หญิงกลัวการเปลี่ยนแปลง"
ภาพที่ผู้ชายปฏิบัติต่อผู้หญิงก่อนเป็นแฟนอย่างหนึ่ง แต่พอเป็นแฟนกันแล้วปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง เช่น เมื่อก่อนจะตัดสินใจเป็นแฟน เช้าถึงเย็นถึง แต่พอเป็นแฟนเช้าถึงบ้าง เย็นถึงบ้าง พร้อมข้ออ้างสารพัด ถ้าจะนานๆ ทีพบกันหรือสองสามวันพบกันสักครั้งหนึ่งก็ได้ ผู้หญิงก็ไม่ว่าอะไร ถ้าเข้าใจเหตุผลร่วมกัน แต่ขอให้เป็นเช่นนี้ตลอดเวลาที่คบกันจนถึงวัน หลังจากเป็นแฟนแล้วก็ยังเหมือนเดิมอยู่
ความเสมอต้นเสมอปลาย อีกความหมายหนึ่งซึ่งลึกซึ้งกว่า แต่ผู้หญิงมักจะไม่ค่อยพูดออกมาในที่สาธารณะคือ เสมอต้นเสมอปลายในความรักที่มีต่อกัน โดยทั่วไป ผู้หญิงอยากให้ผู้ชายมีความรักไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนเมื่อวันเริ่มรักกันใหม่ๆ ความเสมอต้นเสมอปลาย ในความหมายนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงใช้ประกอบการตัดสินใจ จะรับใครเป็นแฟนสักคนอย่างเลี่ยงไม่ได้
ระดับถัดมาผู้หญิงจะดูที่ "ความซื่อสัตย์" ก่อนจะตัดสินใจเลือกใครเป็นแฟน ความซื่อสัตย์ในที่นี้ ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงถึง ความซื่อสัตย์ในความรักเท่านั้น ความซื่อสัตย์ในความรักแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะยังไงก็ถูกดึงมาเป็นข้อเด่นอีกข้อหนึ่ง ซึ่งนำมาประกอบการตัดสินใจอยู่แล้ว
แต่ความซื่อสัตย์ในที่นี้ยังรวมไปถึง ความซื่อสัตย์ทั่วๆ ไปที่อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ เช่น ตกลงจะซื้อแหวนเพชรให้เนื่องในโอกาสวันเกิด แต่พอถึงวันเกิดก็บ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนหาเรื่องไม่ซื้อให้ในที่สุด ความซื่อสัตย์แบบนี้อาจจะเรียกอีกอย่างว่า "พูดไม่เป็นคำพูด" ดูเหมือนเป็นเรื่องไม่ใหญ่โต แต่ถ้ามีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ต่อคำพูดของตนเองบ่อยๆ ประพฤติตนเป็นพันธุ์ปากพล่อย รับปากชุ่ยๆ ไปเรื่อยๆ ผู้หญิงก็คงเหนื่อยที่จะตัดสินใจรับเป็นแฟน
เกณฑ์ตัดสินใจเลือกใครเป็นแฟนประการสุดท้าย ที่อยู่ในความคิดของผู้หญิงจำนวนไม่น้อย คือ การเอาใจใส่ หรือเรียกเป็นภาษาปะกิตให้ทันสมัยหน่อยก็ต้องบอกว่า TAKE CARE นั่นเอง ขณะที่คบกันอยู่ในระยะเวลาที่นานพอสมควร ผู้หญิงย่อมรู้สึกได้ดีว่าผู้ชายที่กำลังจีบกันอยู่นั้นเป็นพวกเอาใจใส่คนอื่น หรือเป็นพวกรอให้คนอื่นเอาใจใส่ตนเอง
วันไหนที่เรารู้สึกไม่ค่อยสบาย ผู้ชายที่ติดต่อเราอยู่เคยถามไถ่สักคำไหมว่า "ไม่สบายหรือเปล่า" ไปนั่งทานข้าวด้วยกันในร้านอาหารที่มีเครื่องปรับอากาศที่อาจจะเย็นเกินไป เคยถามเราไหมว่า "เย็นเกินไปหรือเปล่า" หรือแม้แต่ไม่เห็นอาการใดๆ ที่จะให้ถามไถ่ ก็อาจจะเอื้อนเอ่ยวาจาว่า "หมู่นี้งานยุ่งไหม มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ"
คำพูดคำจาเหล่านี้ที่แสดงถึงความเอาใจใส่ ที่ผู้หญิงจะใส่ใจเก็บเป็นคะแนนสะสมไว้ในใจ จนถึงวันตัดสินใจในที่สุด มาถึงตรงนี้ ผู้ชายที่อยากมีแฟนก็เริ่มวางแผนปฏิบัติให้เป็นคนที่อยู่ในเกณฑ์เหล่านี้ให้ได้ รับรองเธอตัดสินใจเลือกคุณเป็นแฟนแน่นอน